WWDC20 มีอะไรใหม่บ้าง

Apple ได้จัดงาน WWDC20 สำหรับนักพัฒนาโปรแกรม เพื่อเปิดตัว Software ใหม่ ๆ มาลองดูกันว่าค่ำคืนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัวอะไรออกมาบ้าง

iOS 14

App Library

  • จัดกลุ่ม Application ที่อยู่ในหมวดหมู่เดียวกันมาอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
  • ดึง Application ที่ใช้งานบ่อยมาอยู่ด้านบน

Widget

  • ปรับขนาดของ Widget ได้
  • สามารถปรับตำแน่งของ Widget ได้ตามใจชอบ
  • Smart Stack ฟีเจอร์ที่รวม Widget หลายตัวเข้าด้วยกัน

Picture in Picture

  • รับชมวิดีโอได้ต่อเนื่องโดยแปลงเป็นหน้าต่างขนาดเล็กเมื่อใช้งาน Application อื่น

Siri

  • สามารถเรียกใช้งาน Siri ได้ โดยไม่เป็นหน้าจอใหญ่ แต่จะเปลี่ยนเป็นไอคอนเล็กๆด้านล่าง
  • รองรับการแปลภาษาจากบทสนทนาแบบเรียลไทม์ โดยสามารถทำงานโดยไม่ต้องใช้ Internet

Message

  • สามารถปรับแต่ง Memoji ได้หลากหลายมากขึ้น
  • สามารถปักหมุดข้อความ iMessage ไว้ด้านบนได้
  • สามารถสนทนา iMessage แบบกลุ่ม และ Mention หาได้
  • เปลี่ยนรูปการสนทนาแบบกลุ่มได้

Map

  • มีการนำทางที่แม่นยำมากขึ้น
  • ดูข้อมูลสถานที่ต่าง ๆ ได้
  • มีระบบนำทางด้วยจักรยาน
  • สามารถระบุจุดชาร์จของรถ EV

CarPlay

  • สามารถปรับแต่งหน้าตาได้
  • CarKey สามารถปลดล็อกและสตาร์ทรถยนต์ด้วยโทรศัพท์

App Clips

  • สามารถใช้บริการต่างๆ โดยไม่ต้องโหลด Application เพิ่มเติม เพียงใช้ iPhone แตะหรือแสกน เช่น การใช้งาน Apple Pay, Apple Map, Safari, QR Code และอื่นๆ

Support

iPhone ที่รองรับ iOS 14 ได้แก่

  • iPhone SE 
  • iPhone 6s, iPhone 6s Plus 
  • iPhone 7, iPhone 7 Plus 
  • iPhone 8, iPhone 8 Plus
  • iPhone X
  • iPhone XR
  • iPhone XS, iPhone XS Max
  • iPhone 11
  • iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max 
  • iPhone SE (Gen 2)
  • iPod touch Gen 7

iPadOS 14

Side Bar

  • มีแถบด้านซ้ายมือเพื่อที่สามารถโอนย้ายรูปได้สะดวกขึ้น

Siri

  • หากมีคนโทรมาจากเดิมที่ขึ้นมาเต็มจอจะเปลี่ยนเป็นแสดงผลทางด้านบนหน้าจอเล็กๆเท่านั้น

Apple Pencil

  • สามารถเขียนแล้วระบบจะแปลงจากลายมือเป็นตัวอักษร
  • สามารถเปลี่ยนแปลงลายมือเป็นรูปทรง เช่น รูปทรงเลขาคณิต หรือเส้นตรง

Support

iPad ที่รองรับ iPadOS 14 ได้แก่

  • iPad mini Gen 4
  • iPad mini Gen 5
  • iPad Air Gen 2
  • iPad Air Gen 3
  • iPad Gen 5
  • iPad Gen 6
  • iPad Gen 7
  • iPad Pro 9.7 นิ้ว
  • iPad Pro 10.5 นิ้ว
  • iPad Pro 11 นิ้ว
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว Gen 1
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว Gen 2
  • iPad Pro 12.9 นิ้ว Gen 3

AirPods

  • สามารถสลับการใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น หากใช้งาน iPad แล้วมีโทรศัพท์เข้า ก็สามารถสลับไปใช้ใน iPhone ได้ทันที
  • ระบบเสียงรอบทิศทางผสมผสานกับการตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อเราหันหน้าไปทางอื่นระบบเสียงก็จะหมุนตามไปด้วย

WatchOS 7

  • สามารถปรับแต่งหน้าจอได้มากกว่าเดิม
  • แชร์หน้าจอที่ปรับแต่งเองให้กับคนอื่นได้
  • แผนที่แนะนำเส้นทางได้ละเอียดมากกว่าเดิม
  • เพิ่มระบบการออกกำลังกายด้วยการเต้น, Cooldown
  • เก็บข้อมูลในการนอนหลับ
  • แนะนำการนอนและปรับระบบการนอนให้มีประสิทธิภาพ
  • ติดตามการล้างมือ โดยระบบจะจับการล้างลือนับจับเวลาในการล้างมือ
  • อุปกรณ์ที่สามารถไปต่อได้แก่ Appl Watch Series 3, 4 และ 5

tvOS 14

  • เปลี่ยน User ในการใช้งานได้
  • มี HomeKit ทำให้สามารถจัดการ Smarthome ได้
  • Picture in Picture สามารถเปิด Application พร้อมดูวิดีโอได้
  • รองรับ Airplay ระดับ 4K
  • Apple TV Plus เปิดตัวซีรีส์ Foundation

macOS 11 Big Sur

  • ปรับดีไซน์ให้มีความโค้งมนใกล้เคียงกับ iPadOS มากขึ้น
  • แถบการควบคุมมีการปรับหน้าตาใหม่
  • มีการปรับ Widget ที่ปรับแต่งค่า และเลื่อนตำแหน่งได้
  • Mac Catalyst ที่ช่วงแปลง Application บน iPad มารันบน macOS ได้
  • Safari มี Extension ที่สามารถใช้งานได้แค่ 1 วัน เพิ่มความ Privacy ให้แก่ผู้ใช้, รองรับการแปลภาษา

Apple Silicon

Apple ได้เปิดตัว ชิปที่ Apple ดีไซน์ขึ้นมาเอง

  • ชิปที่พัฒนาขึ้นมานั้นสามารถให้ศักยภาพที่ดีและประหยัดพลังงานมากขึ้น
  • เปิดตัว Rosetta 2 ระบบที่สามารถทำให้ Application ตัวเก่าสามารถรันบนชิปตัวใหม่ของ Apple ได้